Chatbot ถูกใช้ในธุรกิจอาหารมาเป็นเวลานานแล้ว แต่เทคโนโลยีนี้ ยังอยู่ในจุดที่พัฒนาไม่สมบูรณ์ ในเวลาหลายปีที่ผ่านมา Chatbot ได้รับการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด มีการใช้งานที่หลากหลายขึ้นสำหรับผู้ประกอบการร้านค้าปลีก เรามาดูกัน ว่าธุรกิจอาหาร สามารถนำ Chatbot ไปใช้อย่างไร และทำไม Chatbot ถึงเป็นสิ่งที่มีประโยชน์อย่างมาก ในการทำงานของธุรกิจขนาดเล็กและกลาง

การสั่งอาหารกลับบ้านผ่านตัวกลาง ได้รับความนิยมมาตั้งแต่ก่อนจะมีโรคระบาดเกิดขึ้นเสียอีก และยิ่งเจอเข้ากับสถานการณ์ในปัจจุบัน ยิ่งทำให้บริการส่งอาหารเช่น Grab หรือ Foodpanda ยิ่งเติบโตมากขึ้นไปอีก

เกิดผลกระทบทั้งดีและไม่ดีกับธุรกิจจำหน่ายอาหาร ด้านหนึ่ง บริการรับส่งอาหารสามารถที่จะเพิ่มปริมาณการสั่งอาหารได้ในจำนวนที่มาก บริการเหล่านี้ มีการตลาดที่ยิ่งใหญ่ และรับรายการสั่งอาหารวันละหลายหมื่นรายการ
สำหรับธุรกิจจำหน่ายอาหารขนาดเล็ก สามารถที่จะพึ่งพาแพล็ตฟอร์มเหล่านี้ ในการโฆษณาให้ลูกค้ารู้จักธุรกิจของเรามากขึ้นด้วย

แต่อีกด้านหนึ่ง หากทำการจำหน่ายอาหารบนแพล็ตฟอร์มเหล่านี้ จะส่งผลให้กำไรของเราลดลงเป็นอย่างมาก ในกรณีที่กำไรของเรามีไม่มากอยู่แล้ว การต้องแบ่งกำไรถึง 35% อาจจะดูเป็นเงื่อนไขที่ขูดรีดจนเกินไป สำหรับผู้ทำธุรกิจอาหารหลายๆ เจ้า

แพล็ตฟอร์มส่งอาหารรายใหญ่ๆ จึงดูเป็น “ความชั่วร้ายที่จำเป็น” ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ ทำให้ร้านอาหารและธุรกิจอาหาร จำเป็นต้องเพิ่มช่องทางการขายให้หลากหลายมากขึ้น

การสั่งอาหารผ่านโซเชียลมีเดีย และเว็บไซต์ ถือเป็นโอกาสที่ใกล้ตัวเจ้าของร้านอาหารมากที่สุด แต่บนโซเชียลมีเดียและเว็บไซต์ ก็ยังมีปัญหาจำนวนหนึ่งเช่นกัน

สมมุติว่าเราให้บริการบน Facebook เราจะต้องจ้างคนอย่างน้อยหนึ่งคน คอยเฝ้าสังเกต ตอบรับข้อความสั่งอาหารตลอดทั้งวัน ไม่มีลูกค้าคนใดที่อยากจะรอคำตอบนานกว่านาที เวลาจะสั่งอาหารแน่นอน

สำหรับเว็บไซต์ ก็มีปัญหาเรื่องความยากลำบากในการพัฒนา และออกแบบการสั่งอาหารที่เร็วและสะดวกเหมือน Foodpanda และ Grab
ถ้าไม่ทำเช่นนั้น ลูกค้าก็จะหันไปสั่งอาหารจากแพล็ตฟอร์มเหล่านั้นแทน

Chatbot จึงเข้ามามีส่วนช่วยในการสร้างประสบการณ์ที่รวดเร็ว สะดวกสบายและดูคุ้นเคยกับลูกค้ามากกว่า เรามาดูประโยชน์ดีๆ และการใช้งานที่จะทำให้เจ้าของร้านอาหารและธุรกิจจำหน่ายอาหารในไทย ขายของผ่านช่องทางของตนเองได้ โดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง

เวลา : ผู้บริโภคส่วนใหญ่ในไทย จะชอบการใช้ Live chat เพื่อสื่อสาร เพราะการสื่อสารแบบนี้ สามารถให้คำตอบได้รวดเร็วที่สุด

สร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้า : ผู้บริโภคในไทย ชื่นชอบการสื่อสารผ่านการแชทที่สุด (บนแพล็ตฟอร์มบริการเช่น Facebook Messenger และ Line)

เวลาในการทำงาน : Chatbot ทำงานตลอดทั้งวัน ทั้งเดือน และทั้งปี เราจะสามารถดูแลการสั่งอาหารของลูกค้าได้เสมอ

กว่า 50% ของคำถามที่ร้านอาหารและธุรกิจจำหน่ายอาหารได้รับหน่อย เช่น “มีเมนูอะไรบ้าง” “ราคาเท่าไหร่” “ใช้เวลาส่งแค่ไหน” ถูกบันทึกไว้ใน Chatbot ทำให้ 50% ของคำถามเหล่านั้นจะได้รับการตอบทันทีโดย Chatbot

การใช้งานใหม่ของ Chatbot คือการรับรายการสั่งอาหารเอง คิดและรับเงินเองภายในแชท นี่คือหนึ่งในการใช้งานที่ยอดเยี่ยมของ Chatbot ในประเทศไทยมีการใช้ Chatbot ในธุรกิจอาหารบางเจ้าเช่นกัน แต่มักใช้กับการจ่ายที่ไม่ได้รับความนิยม หรือไม่มีในไทย เช่น PayPal หรือ Stripe

นอกจากบัตรเครดิตและ PayPal เรายังมีวิธีการจ่ายผ่านพร้อมเพย์

พร้อมเพย์เป็นวิธีการจ่ายเงินเฉพาะของไทย ที่สามารถอำนวยความสะดวกให้กับผู้ค้าที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการซื้อขายเกือบเป็นศูนย์ นี่คือการใช้งานที่มีเฉพาะ Foxbot และมันถูกออกแบบมาเพื่อตลาดในไทยโดยเฉพาะ

การใช้งาน E Commerce ของ Foxbot

Foxbot มีการใช้งาน Ecommerce มากมาย ที่เคยมีให้ใช้แค่บนเว็บไซต์เท่านั้น
การใช้งาน E Commerce ของ Foxbot ประกอบไปด้วย

การจัดการสินค้า : สามารถใส่รายการอาหารทั้งหมดลงในแพล็ตฟอร์มของ Chatbot ได้ ให้ลูกค้าสั่งได้ทันที

เชื่อมโยงรายการ : หากมีรายการของอยู่ใน WooCommerce อยู่แล้ว สามารถนำรายการนั้นมาเชื่อมกับ Chatbot ได้

ให้ลูกค้าดูเมนูเองได้ : โดยไม่มีใครมารบกวน ลูกค้าสามารถดูเมนูและรูปภาพในแชท เลือกสิ่งที่ต้องการ และจ่ายเงินได้เหมือนซื้อผ่านเว็บไซต์
ที่ต่างกันคือทุกอย่างเกิดขึ้นในหน้าต่างแชท ไม่มีการเปลี่ยนหน้าเว็บหรือการสมัครที่ยุ่งยาก